ดูแลไขมันในเลือด คอเลสเตอรอล แอลดีแอล และไตรกลีเซอไรด์ ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท และสมอง (ความจำ) จอประสาทตา
มีสารออกฤทธิ์ 2 ชนิด อีพีเอ (EPA) ลดคอเลสเตอรอลโตรกลีเซอร์ไรด์ และไขมันชนิดเลว (LDL)ที่สะสมในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หลอดเลือดหัวใจอุดตัน สมองเกิดภาวะอุดตัน ดีเอชเอ (DHA) มีหน้าที่สำคัญในการทำงานของระบบประสาทและสมอง DHA จึงเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และทารก 1. น้ำมันปลา 1,106.70 มก. 2. กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) 366 มก. 3. กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 184 มก. 4. ปริมาณกรดไขมันอิ่มตัว 87 มก. **ปราศจาก Carrageenan สารก่อภูมิแพ้**
ดูแลไขมันในเลือด คอเลสเตอรอล แอลดีแอล และไตรกลีเซอไรด์ ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท และสมอง (ความจำ) จอประสาทตา
วิธีรับประทาน รับประทานวัลละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร 1. ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ปลาทะเลหรือน้ำมันปลา 2.ควรระวังในผู้ที่หลอดเลือดแข็งตัวช้า หรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือแอสไพริน 3.เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน 4.หากเกิดอาการแพ้ ควรหยุดรับประทานทันที และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ 5.ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ป่วยที่อยู่ในกระบวนการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทาน 6.ไม่มีผลในการรักษาหรือป้องกันโรค

Omega-3 Daily

Item #SH23723
฿ 1,990.00
ราคาขายปลีก
รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

ขนาดหน่วย

60 TABLETS
จำนวน
1
ดูแลไขมันในเลือด คอเลสเตอรอล แอลดีแอล และไตรกลีเซอไรด์ ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท และสมอง (ความจำ) จอประสาทตา
มีสารออกฤทธิ์ 2 ชนิด อีพีเอ (EPA) ลดคอเลสเตอรอลโตรกลีเซอร์ไรด์ และไขมันชนิดเลว (LDL)ที่สะสมในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หลอดเลือดหัวใจอุดตัน สมองเกิดภาวะอุดตัน ดีเอชเอ (DHA) มีหน้าที่สำคัญในการทำงานของระบบประสาทและสมอง DHA จึงเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และทารก 1. น้ำมันปลา 1,106.70 มก. 2. กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) 366 มก. 3. กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 184 มก. 4. ปริมาณกรดไขมันอิ่มตัว 87 มก. **ปราศจาก Carrageenan สารก่อภูมิแพ้**
ดูแลไขมันในเลือด คอเลสเตอรอล แอลดีแอล และไตรกลีเซอไรด์ ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท และสมอง (ความจำ) จอประสาทตา
วิธีรับประทาน รับประทานวัลละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร 1. ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ปลาทะเลหรือน้ำมันปลา 2.ควรระวังในผู้ที่หลอดเลือดแข็งตัวช้า หรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือแอสไพริน 3.เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน 4.หากเกิดอาการแพ้ ควรหยุดรับประทานทันที และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ 5.ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ป่วยที่อยู่ในกระบวนการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทาน 6.ไม่มีผลในการรักษาหรือป้องกันโรค